โรครามูลนก

มาทำความรู้จักกับโรครามูลนก
โรครามูลนก จากข่าวฮอตช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านค่อยๆ ป้อนอาหารนกพิราบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนกพิราบจึงมักบินเข้าไปในบ้านเพื่อหาอาหารและกระจายมูลไปทุกที่ จะส่งกลิ่นเหม็นและสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น โรคของนกพิราบยังสามารถเป็นพาหะนำโรคบางชนิดมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วย เรานำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโรคมาให้ทุกท่านได้ศึกษากันด้านล่างนี้
โรคที่มากับนกพิราบนั้นมาจากอะไร
เชื้อราในอุจจาระของนกพิราบ เชื้อราชนิดนี้เรียกว่า “คริปโตคอคคัส” เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มากมาย และสามารถแพร่เชื้อสู่มนุษย์ได้โดยการสัมผัสกับอุจจาระของนกพิราบ หรือโดยการหายใจและสูดดมแบคทีเรียให้เข้าสู่ร่างกาย เมื่อ Cryptococcus สัมผัสกับมันก็สามารถแพร่กระจายได้ หากสูดดมเข้าไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดได้ นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ได้อีกด้วย การติดเชื้อประเภทนี้มักส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอตั้งแต่แรกเกิด ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันปกติก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน แต่เนื่องจากคุณมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้อย่างสมบูรณ์ จึงอาจช่วยควบคุมโรคได้ นอกจากนี้ นกพิราบยังมีแบคทีเรียที่เรียกว่า “คลามีเดีย” ที่สามารถทำให้เกิดโรคปอดบวมได้

วิธีป้องกันตนเองจากความเสี่ยงติดเชื้อราจากมูลนกพิราบ
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าปกติ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอตั้งแต่แรกเกิด ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันปกติก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน คุณควรป้องกันตัวเอง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราจากมูลนกพิราบ วิธีการป้องกันมีดังนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับนก เข้าฝูงนกพิราบ หากต้องใกล้ชิด ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอไม่ควรเข้าใกล้นกพิราบ เพราะแบคทีเรียในอุจจาระอาจเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจ เก็บนกพิราบไว้ ไม่อนุญาตให้พักอาศัยในบริเวณที่อยู่อาศัยนี้ ทำความสะอาดอาคารเก่าหรือบริเวณที่พบนก และล้างมือให้สะอาดหลังทำความสะอาดแต่ละครั้ง ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยป้องกันแบคทีเรีย อย่าให้อาหารนกพิราบ ป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
สังเกตอาการเสี่ยงติดเชื้อ
หากสูดดมเข้าไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดได้ นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ได้อีกด้วย อาการต่างๆ ได้แก่ มีไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก ปัญหาการมองเห็น และเวียนศีรษะ หากสมองติดเชื้อ อาจเกิดความสับสนได้ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และอาจเป็นมากกว่าอาการของโรคปอดบวม แต่การติดเชื้อยังสามารถแพร่กระจายและทำลายสมองของเราได้
ข้อควรระวังการติดเชื้อในนกพิราบ
ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอตั้งแต่แรกเกิดไม่ควรอยู่ใกล้นกพิราบ เพราะแบคทีเรียในอุจจาระอาจเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าใกล้นกพิราบเพื่อป้องกันเชื้อโรค
อ่านเพิ่มเติม : โรคเกี่ยวกับสัตว์
ติดตามข้อมูลข่าวสาร : baanpet