โรคซาร์ส

โรคซาร์ส
โรคซาร์ส นักวิทยาศาสตร์พบไวรัสในอุ้งเท้าของชะมดแมว พบเชื้อชนิดเดียวกันนี้ในแรคคูน แบดเจอร์ และค้างคาว หลังจากไปตลาดค้าสัตว์ป่าทางตอนใต้ของจีน และสันนิษฐานว่าเชื้อดังกล่าวมีอยู่ในสัตว์มานานแล้ว แต่มันไม่ได้พัฒนาในคนเป็นครั้งแรกจนกระทั่งโรคปรากฏขึ้น
โรคซาร์สอาจมีต้นกำเนิดในกว่างโจวหรือฮ่องกง เนื่องจากคนในภูมิภาคนี้มีความชำนาญในการทำอาหารประเภท “มายากล” เป็นอย่างมาก และวัตถุดิบก็มาจากหลากหลายแหล่ง มีสัตว์ป่ามากมาย ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ชายชาวจีนคนหนึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในกว่างโจว โดยมีอาการหายใจติดขัดอย่างรุนแรง ประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขาติดเชื้อปอดบวมและเสียชีวิต
อาการและอาการแสดง
อาการเริ่มแรกจะคล้ายกับไข้หวัดและรวมถึงมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนแรง ไอ เจ็บคอ และอาการอื่น ๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจง หายใจลำบากและปอดอักเสบตามมา นี่อาจเป็นปอดอักเสบจากไวรัสโดยตรง หรือปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ระยะฟักตัวของโรคซาร์สอยู่ที่ 4-6 วัน แต่เวลาตรวจพบสั้นเพียง 1 วัน และนานถึง 14 วัน

สาเหตุของโรคซาร์ส
เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคซาร์สถูกค้นพบในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 โดยการตรวจเนื้อเยื่อผู้ป่วยด้วยกล้องจุลทรรศน์ สาเหตุพบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งตรวจพันธุกรรมพบว่าอยู่ในวงศ์ Coronaviridae ไวรัสในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทำให้เกิดหวัดหรืออาการทางเดินหายใจส่วนล่าง (ปอด และหลอดลม) แต่มักมีอาการเล็กน้อย ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคซาร์สมีชื่อว่า SARS coronavirus (SARS-CoV)
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของไวรัสโคโรนา SARS ในตลาดเนื้อสัตว์ป่าในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน พบไวรัสในอุ้งเท้าของชะมดและการติดเชื้อน่าจะมาจากสัตว์ที่มีอยู่เดิมซึ่งมักมีชีวิตอยู่เพื่อ นานมาแต่แรกเริ่มพัฒนาเป็นมนุษย์และทำให้เกิดโรค เมื่อศึกษาเพิ่มเติมพบการติดเชื้อในแรคคูน (Raccoon) แบดเจอร์ (Ferret badger) และค้างคาว และเชื้อนี้ไม่ก่อให้เกิดอาการในสัตว์เหล่านี้
วิธีป้องกันโรคซาร์ส
เนื่องจากโรคซาร์สเป็นโรคที่แพร่กระจายได้ง่าย อัตราการเสียชีวิตที่สูงทำให้องค์การอนามัยโลก รวมถึงองค์กรอื่น ๆ เช่น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) และรัฐบาลต่าง ๆ ตื่นตระหนก เราทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค
มาตรการสำคัญคือการคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่ประสบภัยโดยวัดไข้ผู้โดยสารทุกคน หากอุณหภูมิร่างกายสูงผิดปกติ (ปกติ อุณหภูมิร่างกาย 37 องศาเซลเซียส) ก่อนเข้าประเทศจะต้องนำปรอทวัดไข้ไปวัดอุณหภูมิอีกครั้ง หากติดโรคซาร์ต้องกักตัวตามมาตรฐานรวมถึงผู้โดยสารที่เดินทางด้วยกันต้องอยู่บ้าน 10 วันและสังเกตอาการ
ผู้ที่เดินทางกลับจากแหล่งที่มีการระบาดของโรคหรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงควรทำความสะอาดร่างกาย เสื้อผ้า เครื่องใช้ และแยกตัวไม่คลุกคลีกับผู้อื่น (การสนทนาควรอยู่ห่างกันประมาณ 5 เมตร) อย่างน้อย 7 วัน แต่หากมีไข้ต้องรีบไปโรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง แสดงว่าเพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
อ่านเพิ่มเติม : โรคเกี่ยวกับสัตว์
ติดตามข้อมูลข่าวสาร : baanpet