แมงมุม

แมงมุม เรามักคิดว่าแมงมุมเป็นแมลง จริงๆ แล้วแมงมุมเป็นสัตว์ในกลุ่ม “แมง” นอกจากแมงมุมแล้วยังมีแมงป่อง เห็บ ไร อีกด้วย แมงทุกชนิดมี 8 ขา และแมงมุมไม่ใช่แมลง แมงมุมมีลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งคือมี 8 ขา (แมลงมี 6) ส่วนแมลงมี 3 ส่วนของร่างกาย (เช่น หัว อก และท้อง) มีแมงมุมเพียงสองตัว ส่วนหน้าเรียกว่า เซฟาโลโธแร็กซ์ (cephalothorax) ลำตัวประกอบด้วยส่วนหัวและส่วนอกเชื่อมติดกัน ส่วนหลังเรียกว่าส่วนท้อง แมงมุมจะไม่มีปีกแมงมุมสำหรับการจำแนกประเภท Arachnida, Arachnida หรือ Arachnida มีลำตัวเป็นปล้องโดยส่วนหัวและส่วนอกเชื่อมติดกัน ส่วนท้องเป็นถุงที่แยกออกจากส่วนหัวและส่วนอก โดยมีก้านดอกแยกจากกัน แมงมุมมีขาสี่คู่ ปากมีเขี้ยวที่เรียกว่า chelecerae ซึ่งมีท่อที่ส่วนหัวและทรวงอกซึ่งมีต่อมพิษ
แมงมุม เป็นกลุ่มนักล่าที่พบได้บ่อยที่สุด และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยรักษาระดับประชากรศัตรูพืช. ไม่อยู่ในระดับความเสียหาย ขึ้นอยู่กับชนิดของแมงมุม มีพฤติกรรมปล้นสะดมที่หลากหลาย ส่วนใหญ่จะออกหากินเวลากลางคืน บางชนิดไล่ตามเหยื่อ บางชนิดรอให้เหยื่อติดกับดัก แมงมุมหลายตัวชักใยหาเหยื่อก่อนที่จะเข้ามาใกล้และฆ่าพวกมัน มีการพบแมงมุมหลายตัวที่ทำเป็นใยบาง ๆ. ใช้สำหรับจับแมลงวันและแมลงขนาดเล็กอื่นๆ แมงมุมมีเขี้ยวที่ใช้จับเหยื่อ และส่วนใหญ่ใช้พิษเพื่อทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต โชคดีที่มีแมงมุมเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ก่อนที่จะฆ่าและกินเหยื่อของมัน
แมงมุมกินเพลี้ย ไร ตัวอ่อนแมลงวัน ด้วง ด้วง ฯลฯ

ปัจจุบันมีแมงมุมหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก โดยจำแนกตามวิธีการหาอาหาร กลุ่มหนึ่งประกอบด้วยแมงมุมนักล่าที่เคลื่อนที่ไปมาเพื่อหาอาหาร หนอนมีเขาสามารถเดินทางได้ไกลมาก ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหาอาหาร แมงมุมอีกกลุ่มหนึ่งจะชักใยรออาหารที่จะกัดกิน แมงมุมชนิดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแมลงบิน เช่นเดียวกับตัวเต็มวัยของผีเสื้อกลางคืน แมงมุมทั้งสองเป็นนักล่า ส่วนนักสร้างตาและคนขายกับดักก็เป็นแมงมุมทั่วๆ ไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ล่าในแปลงผักและผลไม้ และมันก็ยังคงอยู่ ในนาข้าวก็เช่นกัน ความหนาแน่นของประชากรแมงมุมขึ้นอยู่กับชนิดของแมลงที่กินเข้าไป แมงมุมตัวเมียจะวางไข่จำนวนมากหากมีอาหารจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อแมลงมีจำนวนมากขึ้น จำนวนแมงมุมจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน และมีแมงมุมหลายชนิดที่มีขนาดใหญ่และมีพิษ แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีพิษร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์ที่เรียกว่า Latrodectus mactan หรือแมงมุมแม่ม่ายดำนั้นมีพิษร้ายแรง (เป็นพิษต่อมนุษย์อย่างรุนแรง)ได้แก่ Latrodectus, Loxosceles, Phonentria และ Atrax ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดที่พบในสหรัฐอเมริกา น้ำพิษเป็นพิษมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ ตัวเมียยาวประมาณ 13 มม. ลำตัว ท้อง และขามีสีน้ำตาลดำ ส่วนท้องมีรูปร่างคล้ายนาฬิกาทรายสีส้มแดง มักอาศัยในที่มืดตามกองไม้ ตอไม้ รอยร้าวที่พื้นของแมงมุมชนิดนี้พบในประเทศไทย ผู้ป่วยใน จ.ขอนแก่น ถูกแมงมุมชนิดนี้กัด หญิงอายุ 20 ปี หลังถูกกัด มีอาการปวดที่บริเวณที่ถูกกัด เหงื่อออกมาก ปวดท้อง หายใจลำบาก และพูดลำบาก อาการจะเกิดขึ้นชั่วคราวและหายภายในหนึ่งวัน แมงมุมมีสีน้ำตาลบนพื้นและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Lactrodectus sp. แมงมุมที่พบในบ้านเรามักชอบอาศัยอยู่ตามมุมห้อง เช่น เพดาน ห้องน้ำ ห้องครัว หรือตามผนังร้าว บางชนิดใช้ตาข่ายจับแมลง ป้องกันและกำจัดโดยใช้สารเคมีฆ่าแมงมุมที่มีขนาดเล็กพอที่จะกินเหยื่อ มีหลายประเภทในตลาด เหล่านี้รวมถึง: ควรฉีดพ่น thiamefos, benzacarb, diazinon และ malathion ทุก 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามควรฉีดพ่นสารเคมีตามซอกมุมหรือเพดาน ระวังแมงมุม พวกมันสามารถหล่นลงมาจากเพดานและกัดได้หากตกใจ
ติดตามรีวิวสัตว์เลี้ยง : รีวิวสัตว์เลี้ยง
สามารถติดตามความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่อไปได้ที่ : baanpet