เฟร์ริต Ferret

“เฟร์ริต Ferret” สุดยอดนักสำรวจ
พังพอนเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมมากในยุโรปและอเมริกาในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา พังพอนถือเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับสามรองจากสุนัขและแมว มีชมรมคนเลี้ยงแกะระดับประเทศ ในประเทศไทยมีการนำเอาพังพอนเข้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงประมาณ 6-7 ปีแล้ว และในปัจจุบันก็มีคนเลี้ยงพังพอนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เห็นได้ในยุโรป และสหรัฐฯ ส่วนไทยมีหลายประเทศนำเข้ามาก เช่น เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ฮังการี”

เช่นเดียวกับตัวมิงค์และวีเซิล พังพอนก็เป็นสกั๊งค์ โดยธรรมชาติอาศัยอยู่ในป่า โพรงสำหรับนอนและหลบภัย พังพอนเป็นสัตว์นักล่าที่ว่องไวอีกชนิดหนึ่ง สามารถจับหนูและกระต่ายเป็นอาหารได้อย่างรวดเร็ว
ลักษณะเด่นที่ทำให้หลายๆ คนหลงรัก อาจเป็นเพราะเขารักการสำรวจ ขี้สงสัยเป็นสัตว์ขุดดินและไวต่อการสัมผัสภายนอก เฟอร์เร็ตนอนหลับ 6-8 ชั่วโมงและวิ่งประมาณ 12-18 ชั่วโมง แม้ว่าพวกมันจะนอนนานกว่าสัตว์อื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ตาม แต่พวกเขามักจะตื่นตัวและตื่นตัวต่อสิ่งรอบข้างเสมอ เล่นกับเจ้าของได้ทั้งวัน พังพอน ก็เหมือนแมวกับหมาบ้านเรา
พังพอนมีต่อมส่งกลิ่นเหม็นใต้ผิวหนังและใต้ทวารหนัก เมื่อใดที่มันหวาดกลัว มันจะส่งกลิ่นสาบออกมา เมื่อผิวแห้ง ต่อมกลิ่นใต้ผิวหนังจะผลิตชั้นน้ำมันออกมา ดับกลิ่นด้วยกลไกธรรมชาติ ถ้าเจ้าของโอเคกับกลิ่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับสัตว์เลี้ยง
สัตว์ไม่มีเพศ
“สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ไม่อาศัยเพศพวกมันต้องผสมพันธุ์ตลอดเวลา” เมื่อถึงวัยผสมพันธุ์ โรคโลหิตจางจากฮอร์โมนเรียกว่า โรคโลหิตจางจากฮอร์โมน หากคุ้ยเขี่ยตัวเมียไม่ได้รับการปฏิสนธิ ความเป็นพิษของฮอร์โมนทำให้ท้องบวม สีซีด และขนร่วงทั่วร่างกาย และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ขณะเดียวกัน ผู้ชายอาจเกิดความผิดปกติของต่อมหมวกไตซึ่งนำไปสู่โรคได้ เมื่อเฟอเรททั้งตัวผู้และตัวเมียมีอาการข้างต้น ไม่สามารถรักษาให้หายได้ง่ายๆ จึงควรป้องกันโดยการทำหมันเพื่อรักษาชีวิต หากมีบุตรยาก
การสังเกตอย่างง่าย ตัวผู้จะมีอัณฑะที่ใหญ่ขึ้นเมื่อสัตว์พร้อมที่จะผสมพันธุ์ อวัยวะเพศหญิงบวมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าปกติก็แทบมองไม่เห็น พังพอนสามารถสืบพันธุ์ได้ปีละสองครั้งขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ ตัวผู้เริ่มผสมพันธุ์เมื่ออายุ 6 เดือน ตัวเมียพร้อมเมื่ออายุ 8 เดือนถึง 1 ปี และผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละคน ในประเทศไทย อาจจะมากถึง 3 ครั้งต่อปี

ระยะตั้งท้องของพังพอนตัวเมียอยู่ที่ 45-50 วัน ออกลูกครอกละ 1-12 ตัว ซึ่งสามารถคลอดตามธรรมชาติได้ และไม่ชอบให้ขัดจังหวะระหว่างคลอดหรือเพิ่งคลอดลูก เพราะมันจะทำให้สัตว์กลัวจนคุณสามารถกินลูกของคุณเองได้ ลูกๆ อยู่รอดได้ประมาณ 30 วันและลืมตาและโชว์ฟันซี่เล็กๆ ของพวกมัน ลูกสามารถหย่านมได้ประมาณ 45 วัน เมื่อตัวผู้โตขึ้นน้ำหนักโตเต็มวัยจะไม่เกิน 2 กก. ส่วนตัวเมียจะหนัก 0.8-1 กก. อยู่กับเราได้ 8-10 ปี ตลอดอายุขัยของมัน
คนไทยเลี้ยงพังพอนเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะชอบความน่ารักขี้เล่น แม้ว่าพังพอนจะเป็นสัตว์ต่างถิ่น การเลี้ยงดูแบบไทยทำให้เฟอเร็ตปรับตัวเข้ากับเราได้เช่นกัน “คนเลี้ยงในประเทศไทยสามารถเลี้ยงด้วยอาหารแมวคุณภาพสูงที่มีโปรตีนสูงได้ แต่เราจะให้อาหารเฟอเร็ตผสมกับอาหารแมวโดยตรง เฟอเร็ตเป็นสัตว์กินทวารหนัก ถ่ายรูปหลังอาหาร ดังนั้นให้กินได้ตลอดเวลา โดยค่าเฉลี่ย ปริมาณอาหารที่จะเลี้ยงพวกเขาประมาณ 1 กิโลกรัมต่อเดือน” ท้องคุ้ยเขี่ยและท้องคุ้ยเขี่ยเป็นรูปตัว I จึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกดูดซึมได้เร็วและถูกขับออกทันทีโดยไม่ต้องกินเป็นเวลานาน พังพอนชอบกินอาหารที่ยื่นให้ โดยเฉพาะของหวานอาจทำให้อุจจาระเหลวและฟันผุได้ เนื่องจากพังพอนเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกมันจึงขาดเอ็นไซม์ในการย่อยพืชและไฟเบอร์ ดังนั้นผักและผลไม้จึงไม่ใช่อาหารของพวกมัน
ต้องมีขวดน้ำ ถ้วยอาหาร กระบะทราย และอุปกรณ์ให้อาหารหลักอื่นๆ อยู่ในกรง อาจมีของเล่น ลูกบอล เปลญวน เนื่องจากสัตว์เหล่านี้ชอบวิ่งและขุด ควรเลี้ยงในกรงขนาดประมาณ 50×50 ซม.
“ตอนเลี้ยงเราแยกเพศกัน เพราะพอตัวผู้โตเต็มที่ก็พร้อมผสม พอเราเอาตัวเมียใส่กรง มันจะบีบคอตัวเมียที่ต้องการผสมพันธุ์ แต่ตัวเมียยังไม่พร้อม การผสมพันธุ์เป็นผลให้ได้รับบาดเจ็บที่คอได้”
“จริงๆ แล้วเขามีปัญหาในการระดมทุน ผมว่าไม่ใช่กลิ่นตัวนะ น่าจะเป็นกลิ่นขี้คุ้ยเขี่ย บางคนไม่ฝึกถ่ายอุจจาระในห้องน้ำ มันจะเลอะเทอะ เลอะเทอะ แต่ของผมอยู่ในรถกระบะ . ทำความสะอาดง่ายแต่อาบน้ำไม่บ่อยนัก ประมาณทุก 2-3 สัปดาห์ก็พอ เพราะจะสร้างน้ำมันมาเคลือบผิวไว้ไม่ให้แห้ง”
พังพอนมีความไวต่อการติดเชื้อแบคทีเรียมาก โดยเฉพาะเมืองร้อนอย่างประเทศไทย สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของพังพอน จำเป็นต้องมีความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแมวและสุนัข แต่ถ้าคุณต้องการเลี้ยงรวมกันทั้งสุนัขและแมวควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเพื่อความปลอดภัย “โรคที่น่าเป็นห่วงเป็นพิเศษคือโรคหัด ซึ่งติดต่อได้ทั้งจากสุนัข แมว และกระต่าย ไม่มีทางรักษาได้ ตอนนี้กลุ่มผู้เพาะพันธุ์กำลังจะแนะนำวัคซีนสำหรับพังพอนโดยเฉพาะ”
สีเป็นตัวกำหนดราคา
เมื่อพังพอนอาศัยอยู่ร่วมกับคน พวกมันจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับสุนัขและแมว มีการแข่งขันคุ้ยเขี่ยเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป ตัวแปรสำคัญคือสีผมซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
Sable – สีพื้นฐาน ขนสีน้ำตาลเข้มและดวงตาสีดำสนิท สีผมบนใบหน้าดูเหมือนหน้ากากโจร หมีแพนด้า – มีตาสีขาว น้ำตาล และดำ และสีที่นิยมมากที่สุดคือสีเงินอ่อน – สีขาวทั้งหมดไม่มีสีดำเลย และดวงตาเปลี่ยนเป็นสีทับทิมเมื่อโดนแสง นี่คือสีหลักของพังพอน
“ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเขาจะเน้นไปที่สีน้ำตาลเข้มสำหรับการแข่งขันเขาจะไม่เล่นกับสีอื่น” สีดำเป็นสีพื้นฐานสำหรับพังพอน
สีที่แพงที่สุดในประเทศไทยแถมยังได้รับความนิยมสูงสุดอีกด้วย และตอนนี้เสื้อโค้ท Light Silver ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนรักคุ้ยเขี่ย “Light Silver แพงที่สุดและขายง่ายที่สุด” ราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์อยู่ที่ 6,500 บาท และราคาล่าสุดอยู่ที่ 6,000 บาท ราคาลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บางบ้านเขารับกลิ่นพังพอนไม่ได้
ลองไล่ราคาขายของแต่ละสีดูครับว่าราคาเท่าไหร่ ราคาเริ่มต้นที่ 4,500 บาทขึ้นไปเป็นราคามาตรฐานของพังพอน ส่วนแพนด้า เผือก และเงิน อยู่ที่ 5,000-5,500 บาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามความสวยงามของสีขนแต่ละสี “ความสวยดูได้จากทรงจมูกและสีผม บางคนอาจจะอวบๆ น่ารัก ตอนเด็กๆ หน้าสั้น ผมฟูสวย ราคาขึ้นอยู่กับสีเป็นส่วนใหญ่ ของเส้นผม คิดว่าเป็นลักษณะเด่นของแต่ละคน”
“เราขายพังพอนอายุ 45 วัน และสุดท้ายเราขายพังพอนอายุ 10 วัน ราคาตัวผู้กับตัวเมียจะต่างกันเล็กน้อย ราคาตัวเมียจะสูงกว่าประมาณ 500 บาท ตัวผู้ถ้าสีสวย ขายได้”
หากมีคนต้องการเริ่มต้นธุรกิจอย่างจริงจัง บทวิจารณ์กอล์ฟบอกว่ามันอาจไม่คุ้มค่า ดังนั้นลองคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นดูครับ การลงทุนซื้อพังพอนสีพื้นฐานตัวละ 6,500 บาท กรงประมาณ 1,000 บาท อุปกรณ์และอาหารประมาณ 1,000 บาท รวมเงินลงทุนเฉลี่ย 8,500-10,000 บาทต่อตัว
“ยิ่งเลี้ยงยิ่งแพง โดยเฉพาะค่าอาหาร ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะผสมพันธุ์ใหม่ได้ อีกอย่างพังพอนมักมีปัญหาเรื่องลมมาก มีลูกเกิน 2 ปีก็ลำบาก” ไม่ใช่จะบอกว่าการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน แต่ก็ยังยาก และยังมีโรคภัยไข้เจ็บอีกมากมาย
ติดตามรีวิวสัตว์เลี้ยง : รีวิวสัตว์เลี้ยง
สามารถติดตามความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่อไปได้ที่ FB : baanpet