เว็บสล็อต
https://baanpet.com/

Honey bee ผึ้งน้ำหวานรู้จักปรุงยา

ผึ้งน้ำหวานรู้จักปรุงยา

เชื่อหรือไม่ว่าน้ำผึ้งหอมหวานที่ได้รับการยกย่องเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” หรือสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพในสมัยนี้ เพียงไม่กี่สิบปีก่อนถูกบรรดานักโภชนาการมองว่าไม่ต่างอะไรกับน้ำเชื่อมธรรมดา จนกระทั่งช่วงทศวรรษ 1990 เริ่มมีการค้นพบคุณประโยชน์หลากหลายของน้ำผึ้ง ซึ่งอุดมไปด้วยเอนไซม์ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ

แม้แต่ผึ้งเองก็ยังรู้จักใช้น้ำผึ้งเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผึ้งน้ำหวาน” (Honey bee) ซึ่งเป็นผึ้งในสกุล Apis และเป็นผึ้งชนิดเดียวที่สามารถผลิตน้ำผึ้งได้มากพอในเชิงพาณิชย์ พวกมันเลือกใช้ประโยชน์จากสารเคมีในพืชที่เรียกว่า Phytochemicals ที่ออกฤทธิ์ต่างกันไป แล้วแต่ว่าน้ำผึ้งนั้นจะเก็บมาจากดอกไม้ชนิดไหน

เมย์ เบเรนบอม นักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ วิทยาเขตเออร์แบนา-แชมเปญ ของสหรัฐฯ บอกว่าผึ้งน้ำหวานได้รับประโยชน์ทางสุขภาพ จากการกินน้ำผึ้งหลากหลายชนิดที่มันหามาเก็บสะสมไว้ พวกมันมีอายุยืนขึ้น มีภูมิต้านทานการติดเชื้อและทนต่ออากาศหนาวเย็นสูงขึ้น เมื่อได้รับน้ำหวานและเกสรจากดอกไม้นานาพันธุ์

หวานเป็นยา

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร “นิเวศวิทยาเชิงพฤติกรรมและชีววิทยาเชิงสังคม” (Behavioral Ecology and Sociobiology) เมื่อปี 2014 พบว่าผึ้งน้ำหวานรู้จัก “ปรุงยา” รักษาความเจ็บไข้ของตนเอง โดยเลือกกินน้ำผึ้งที่มาจากดอกไม้หลากหลายชนิดให้เหมาะกับอาการของโรค

มีการทดลองให้ผึ้งน้ำหวานที่ป่วยด้วยอาการติดเชื้อราและแบคทีเรีย เลือกกินอาหารได้อย่างอิสระจากน้ำผึ้ง 4 ชนิด ผลปรากฏว่าผึ้งเลือกน้ำหวานที่มาจากดอกทานตะวันมากที่สุด ซึ่งน้ำผึ้งชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง

งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2017 ในวารสารวิชาการ Insects พบว่าผึ้งในห้องทดลองที่ได้รับน้ำหวานผสมสารประกอบ Phytochemicals จากพืชสองชนิด ซึ่งได้แก่กรด p-Coumaric และสารต้านอนุมูลอิสระ Quercetin สามารถทนทานต่อยาฆ่าแมลงได้ดี และมีอายุยืนยาวกว่าผึ้งที่ไม่ได้รับสารประกอบดังกล่าวเป็นอาหาร

นอกจากนี้งานวิจัยอื่น ๆ ยังพบคุณประโยชน์ของสาร Phytochemicals หลายชนิดจากพืช ซึ่งปะปนอยู่ในน้ำผึ้งในปริมาณสูง เช่นกรด Abscisic acid ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ภูมิคุ้มกันของผึ้ง ทำให้แผลหายเร็ว และช่วยผึ้งให้ทนทานต่ออากาศหนาวเย็นได้ดี ส่วนสารประกอบ Thymol จากต้นไธม์ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ ก็ช่วยรักษาผึ้งที่ติดเชื้อราโดยลดปริมาณสปอร์ของราลงได้ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

ผึ้งน้ำหวานรู้จักปรุงยา

สารเคมีในน้ำผึ้งที่มีประโยชน์

 บางตัวยังช่วยยับยั้งโรค Foulbrood ซึ่งทำให้ตัวอ่อนของผึ้งป่วยและล้มตายยกรังได้ ส่วนสารอัลคาลอยด์ Anabasine ช่วยกระตุ้นการทำงานของยีนที่ผลิตโปรตีนต้านจุลินทรีย์ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการล้างพิษและสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย สารเคมีจากพืชในน้ำผึ้งบางชนิดยังช่วยเพิ่มปริมาณ รวมทั้งความหลากหลายของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในทางเดินอาหารของผึ้งด้วย ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของการติดเชื้อปรสิตลงได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ผึ้งน้ำหวานในธรรมชาติและผึ้งเลี้ยงในปัจจุบัน ต่างได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถค้นหาและเก็บสะสมน้ำผึ้งที่มาจากดอกไม้หลากหลายชนิดได้ เนื่องจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และความนิยมในการปลูกพืชทำเงินเพียงชนิดเดียวในท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับว่าความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันและผลิตยารักษาโรคเองของผึ้ง ได้ลดน้อยถอยลงอย่างน่าใจหาย

เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในสหรัฐฯ

ต้องสูญเสียผึ้งในรังของตนไปถึง 45% ระหว่างเดือนเม.ย. 2020 – เม.ย. 2021 เนื่องจากโรคภัยและการติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นสภาวการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับสอง หลังเริ่มมีการเก็บสถิติมาตั้งแต่ปี 2006

มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งเลือกทิ้งน้ำผึ้งหลากหลายชนิดไว้ในรังบ้าง เพื่อให้ผึ้งมี “คลังยา” ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้ตลอดปี นอกจากนี้ควรมีแผนส่งเสริมเกษตรกรในท้องถิ่นให้ปลูกพืชหลากหลายชนิด หรือแบ่งพื้นที่เพาะปลูกบางส่วนให้เป็นป่า เพื่อที่พืชมีดอกนานาพันธุ์ในธรรมชาติจะได้งอกงามขึ้นเอง และเป็นแหล่งทรัพยากรให้ผึ้งน้ำหวานได้อาศัยหาอาหารและยารักษาโรคต่อไป

สามารถติดตามความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่อไปได้ที่ : baanpet

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ