บีเกิล (Beagle)

หากคุณนึกถึงสุนัขขนสั้นที่มีร่างกายกะทัดรัดและรูปร่างที่สมาร์ท กระเป๋าใบนี้เต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน มีจมูกที่ดมเก่งไม่เป็นสองรองใคร แถมยังน่ารัก จนหลายคนเห็นแล้วอยากเข้าไปกอด แน่นอนว่าสายพันธุ์บีเกิ้ลยังเป็นสายพันธุ์ที่ใครๆ ก็ต้องนึกถึง แม้ว่าจะมีขนาดกะทัดรัด แต่บีเกิ้ลก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กๆ ต้องบอกว่าบีเกิ้ลมีความดื้อ ดื้อนิดๆ และพลังงานเยอะ เจ้าของบีเกิ้ลต้องหาทริกที่สามารถสอนได้ ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพร่างกายของบีเกิ้ลด้วย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาทำความรู้จักกับบีเกิ้ลกันดีกว่า คุณจะเห็นว่าทำไมใครๆ ก็รักบีเกิ้ล
ลักษณะนิสัย
บีเกิ้ลมีนิสัยอ่อนโยน ทำให้เจ้าของหัวเราะเสมอกับความน่ารักและมุขตลกของเขา แต่ในความน่ารักนั้นก็มีความซนล้นๆซ่อนอยู่เช่นกัน (บางครั้งอาจทำให้เจ้าของหัวเราะจนน้ำตาไหล) และบีเกิ้ลก็เหมือนกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่ต้องการได้รับการดูแลจากเจ้าของ ชอบเข้าสังคมและพบปะผู้คนหลากหลาย ชอบออกไปเที่ยว เห็น ได้ยินเสียงใหม่ๆ และยินดีรับทุกประสบการณ์ที่เจ้าของที่พักมอบให้ ดังนั้น เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกสุนัขตัวนี้ก็คือการทำให้บีเกิ้ลเป็นเพื่อนสัตว์เลี้ยงของคุณ รับรองว่าจะทำให้บีเกิ้ลของคุณมีความสุขมากกว่าปล่อยบีเกิ้ลไว้ในบ้านคนเดียว เพราะถ้าคุณเลี้ยงบีเกิลไว้ที่สวนหลังบ้าน บีเกิลอาจหาทางสนุกได้ พวกมันอาจกลายเป็นคนขี้เหนียว (แต่ทำให้ปวดหัว) ด้วยการเห่าหอน ขุดดิน หรือพยายามหนีออกจากบริเวณนั้น

ประวัติความเป็นมา
สายพันธุ์บีเกิลเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี แม้ว่าที่มาของชื่อบีเกิ้ลอาจไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่ามาจากภาษาฝรั่งเศส begueule, beugler หรืออาจจะเป็น beag ภาษาอังกฤษก็ได้ begele เยอรมันก็เป็นไปได้เช่นกัน ต้นกำเนิดของสายพันธุ์บีเกิ้ลเชื่อว่าเป็นลูกหลานของสุนัขล่าสัตว์ จัดเป็นเทอร์เรียขนาดเล็กและช่วยล่าสัตว์ เช่น กระต่าย ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสหราชอาณาจักร ว่ากันว่าวิลเลียมที่ 1 ผสมพันธุ์กับสุนัขท้องถิ่น ได้นำสุนัขทัลบอตมาด้วย (ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว) มายังอังกฤษเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1066 และเป็นบรรพบุรุษของสายพันธุ์บีเกิ้ล ในช่วงยุคของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 (1307-1327) และ Henry VII (1307-1327) (1485-1509) บีเกิลกลายเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอังกฤษ
บีเกิ้ลตัวจิ๋วที่รู้จักกันในชื่อ Glove Beagle เป็นที่นิยมมากในตอนนั้น เพราะมันเป็นสุนัขขนาดเล็กพอที่จะถืออยู่ในมือของคุณ สุนัขที่เลี้ยงในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 (พ.ศ. 2076-2146) มีขนาดเล็กกว่า Beagles ยืนสูงเพียง 9 นิ้วเริ่มถูกนำไปอเมริกาหลังจากเหตุการณ์ในสงครามกลางเมือง กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักล่ากระต่ายแทบจะในทันที บีเกิลได้รับการจดทะเบียนโดย American Kennel Club (AKC) ในปี พ.ศ. 2428 และปัจจุบันชื่อบีเกิลในอเมริกาเหนือหมายถึงสายพันธุ์ที่มีจมูกโด่ง เสียงไพเราะ และมีพละกำลังสูง หลงใหลในการล่ากระต่ายนั่นเองค่ะ
ลักษณะของสายพันธุ์บีเกิ้ลโดยสังเขป
บีเกิลเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่ยอดเยี่ยมพอๆ กับสายพันธุ์อื่นๆ และจงรักภักดีต่อเจ้าของ การมีสุนัขที่น่ารัก ร่าเริง ฉลาด ทำให้เจ้าของยิ้มได้เสมอ ชอบเล่นกับสุนัขตัวอื่น ไม่ว่าจะกับสุนัข เด็ก หรือสัตว์เลี้ยง
ในบรรดาสายพันธุ์อื่น บีเกิลมีความโดดเด่นด้วยหูที่ยาวเป็นพิเศษ จมูกที่บอบบางทำงานได้ดี เนื่องจากพวกมันมีตัวรับกลิ่นมากถึง 220 ล้านตัว (เทียบกับของมนุษย์ 5 ล้านคน) บีเกิ้ลจึงโดดเด่นในด้านการรับรู้กลิ่น จัดเป็นสุนัขดมกลิ่นหรือสุนัขดมกลิ่นมีบทบาทสำคัญในการล่าสัตว์ขนาดเล็กในอดีต กลิ่นนี้ไม่เป็นสองรองใคร จึงได้มอบหน้าที่ให้สายสืบช่วยตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิดในสนามบิน ยกเว้นกลิ่นเฉพาะตัวของบีเกิ้ล บีเกิ้ลยังเป็นที่รู้กันว่าซุกซน และสอนยาก (เพราะเขาเป็นตัวของตัวเอง) หลายคนแนะนำให้พาบีเกิ้ลไปโรงเรียนฝึกสุนัขที่เป็นทางการ ซึ่งดีกว่าสำหรับเจ้าของและตัวสุนัขเอง
ขนาดบีเกิ้ล
บีเกิ้ลจัดเป็นสุนัขขนาดกลาง American Kennel Club (AKC) แบ่งบีเกิ้ลออกเป็นสองกลุ่ม: กลุ่มที่สูงไม่เกิน 13 นิ้ว และกลุ่มที่สูงต่ำกว่า 15 นิ้ว (วัดที่ไหล่) น้ำหนักเฉลี่ยของบีเกิ้ลอยู่ที่ 8-13.6 กก. อายุขัยเฉลี่ยของบีเกิ้ลคือ 10-15 ปี
แม้ว่าสุขภาพโดยรวมของบีเกิ้ลจะดี แต่ผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ต้องระวังเรื่องโรคต่างๆที่มักเกิดกับสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล โรคที่ Beagles อาจประสบ ได้แก่ :
– โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน: Beagles มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน และมีนิสัยรักการกิน ทั้งนี้ เจ้าของควรพาสุนัขออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลือกอาหารที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์บีเกิ้ลของคุณเพื่อรักษาระดับพลังงานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
– หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: ทำให้สุนัขมีอาการปวดคอและหลังได้ กรณีที่รุนแรงอาจทำให้สูญเสียความรู้สึก ชา และสูญเสียการควบคุมลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ สำหรับการรักษานั้นสัตวแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความรุนแรง สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดคลายการกดทับที่ไขสันหลัง ผลการรักษาอาจไม่สำเร็จในบางคน
– ปัญหากระดูกและข้อ: โรคที่สามารถพบได้ในบีเกิ้ล เช่น สะโพกผาย ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ สุนัขมักแสดง อาการปวดขาหลังเวลาเดินหรือยืน อาจเกิด Patellar luxation ซึ่งพบได้บ่อยในสุนัขที่มีขนาดกะทัดรัด ส่งผลให้เกิดการเดินที่ผิดปกติโดยต้องยกขาขึ้นเล็กน้อยระหว่างการเดิน หรือขาสั่นหรือเหยียดตรงก่อนกลับสู่ท่าเดินปกติ หากเป็นมาก อาจลุกลามจนเป็นโรคข้ออักเสบ สัตวแพทย์ของคุณอาจพิจารณาการผ่าตัด
– ปัญหาสายตา: ปัญหาสายตาที่พบบ่อยในบีเกิ้ล เช่น ตาเชอรี่ พบเปลือกตาที่สามของสุนัขยื่นออกมาจากมุมด้านในของดวงตา ดูคล้ายกับเชอร์รี่นั่นเอง อาจพบต้อหินร่วมด้วย นี่อาจเป็นเรื่องน่าวิตกสำหรับสุนัขเนื่องจากความดันตาสูงกว่าปกติ บนพื้นผิวดวงตาของสุนัขมีสีขาว หากรักษาช้าเกินไปอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด
– โรคลมบ้าหมู: เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์บีเกิล อาจพบว่าสุนัขเป็นลมหมดสติ ขาจะยืดและหมดความรู้สึก หากพบปัญหา ควรรีบนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม สุนัขส่วนใหญ่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี

ติดตามรีวิวสัตว์เลี้ยง : รีวิวสัตว์เลี้ยง
สามารถติดตามความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่อไปได้ที่ FB : baanpet