กบดอยช้าง

กบดอยช้าง เป็นกบครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่มกบขนาดเล็ก ความยาวจากปลายจมูกถึงปลายตะโพกคือ 35-38 มม. และส่วนหัวจะกว้างกว่ายาว สันบนจมูกที่แหลมมนมีมุมที่ชัดเจน รูจมูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างตากับปลายจมูก ระยะห่างระหว่างดวงตาแคบกว่าความกว้างของเปลือกตา แผ่นรองหูมีความกว้างน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของดวงตาและไม่สะดุดตามากนัก นิ้วที่หนึ่งยาวเท่ากับนิ้วที่สอง ขาหลังยาวเมื่อยื่นไปข้างหน้า 

รอยต่อของต้นขาและหน้าแข้งยื่นเลยปลายจมูก มีเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น สันด้านข้างของผิวลำตัวที่เรียบเริ่มต้นหลังเปลือกตาหลัง ขยายความยาวทั้งหมด และเชื่อมกับสันอีกอันเหนือทวารหนัก ลำตัวมีสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม หัวและไหล่สันด้านข้างสีขาวขลิบดำ ริมฝีปากสีดำมีแต้มสีขาว มีจุดสีดำข้างลำตัวทั้งหมด และแถบแนวนอนสีดำที่เท้าทั้ง 4 ข้าง ใต้ท้องสีเหลืองมีเส้นสีดำใต้คาง มีจุดดำกระจายที่ท้องและใต้ขา เดิมพบกบดอยช้างบนดอยช้าง ที่ชายแดนเชียงใหม่และเชียงราย

นี่คือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอันดับหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อนุรา (/อะ-นุ-ระ/) รูปร่างโดยรวมเป็นสัตว์ไม่มีหาง เนื่องจากกระดูกสันหลังส่วนหางได้เชื่อมติดกันยาวเป็นท่อนเดียว จำนวนกระดูกสันหลังลดลงเมื่อเทียบกับสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เพราะมีปล้องไม่เกิน 9 ปล้อง ขาหลังยาวเนื่องจากการยืดออกของกระดูกหน้าแข้ง กระดูกน่อง ตาตุ่ม และเกือกม้า บางส่วนเชื่อมติดกันเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงสำหรับกระโดด 

หัวโตแบน ปากกว้าง ตัวอ่อนของกบจะดูแตกต่างจากตัวเต็มวัยโดยเฉพาะที่เรียกว่า “ลูกอ๊อด” ซึ่งมีรูปร่างคล้ายปลา มีหัวขนาดใหญ่มาก มีหาง และไม่มีฟัน โดยโครงสร้างของจะงอยปากเป็นสารประกอบเคราติน หายใจผ่านเหงือกเหมือนซาลาแมนเดอร์ พฤติกรรมการกินอาหารของลูกอ๊อดจะแตกต่างกันไป พวกมันอาจกินตัวกรองอาหารหรือกินพืชและสัตว์